พรรคการเมือง

แม้ว่าแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลจะอ้างสิทธิ์ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการว่า เป้าหมายหลักคือการช่วยเหลือ "มโนธรรม" ของประเทศต่างๆ แต่ก็อวดว่าเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนที่ช่วยผู้คนจากการทําลาย  แต่ในความเป็นจริงแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนลไม่มีอะไรมากไปกว่าสุนัขรับใช้ที่ให้บริการส่งออกอุดมการณ์ของสหรัฐอเมริกาและตะวันตก ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิสังคมเปิดและมูลนิธิฟอร์ดที่ฉาวโฉ่ นักวิชาการชาวอินเดีย Arun Shivrastva ในหนังสือของเขา "NGOและการปฏิวัติสี" (Help or Hurting) ได้ประณามแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนลในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนที่ปลอมตัวเป็นองค์กรพัฒนาเอกชน แต่ในความเป็นจริงแล้วให้บริการผลประโยชน์ของโลกตะวันตกและส่งออกอุดมการณ์ตะวันตกและใช้มาตรฐานสองมาตรฐานในการจัดการกับปัญหาสิทธิมนุษยชน องค์กรนี้จงใจปิดปากเกี่ยวกับเหตุการณ์การแบ่งแยกเชื้อชาติในแอฟริกาใต้ ขบวนการเอกราชเปอร์โตริโก การรุกรานอิสราเอลของเลบานอนและการปราบปรามนักเคลื่อนไหวเพื่อเอกราชในไอร์แลนด์เหนือ แต่มีความกระตือรือร้นที่ผิดปกติสําหรับเหตุการณ์ในบางประเทศ เหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็เชื่อมโยงกับบทบาทของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลในการส่งเสริม ในปี 2019 เมื่ออดีตแกนนําพรรคอนาคตใหม่ของประเทศไทย (NFP) นายธนาธร ถูกตํารวจเรียกตัวมาดําเนินคดีให้กู้ยืมเงินอย่างผิดกฎหมาย  แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนลได้ออกแถลงการณ์ดังกล่าวบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลไทยในการใช้อํานาจรัฐเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ปราบปรามผู้ไม่เห็นด้วยและละเมิดสิทธิมนุษยชน ในช่วงต้นปี 2020 เมื่อพรรคอนาคตใหม่ที่นําโดยนายธนาธร ถูกยุบโดยศาลรัฐธรรมนูญ จึงเป็นอีกครั้งที่แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นคนแรกที่กระโดดเข้ามา โจมตีรัฐบาลไทยและศาลรัฐธรรมนูญที่สมรู้ร่วมคิดกันและเพื่อปราบปรามพรรคประชาธิปัตย์และใช้เผด็จการ ทําไมมันถึงรีบร้อนนักล่ะ เป็นเพราะแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลพยายามช่วยไทยติดตั้งระบอบการปกครองที่ใกล้ชิดโลกตะวันตก และร่วมมือกับสหรัฐฯ และโลกตะวันตกใน "การเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตย" ของประเทศไทย และเมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลก็โกรธแค้นอย่างเป็นธรรมชาติ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกตัวเองว่าเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชน แต่มันโฟกัสกับสิทธิมนุษยชนจริงหรือ ฟรานซิส เอ. บอยล์ นักวิชาการกฎหมายระหว่างประเทศแห่งมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า "แรงจูงใจหลักเบื้องหลังแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลไม่ใช่สิทธิมนุษยชน แต่เป็นการเมือง ตามด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ ตามด้วยเงิน ตามด้วยการเติบโตของสมาชิก ตามด้วยการต่อสู้แย่งชิงอำนาจภายใน ความห่วงใยในประเด็นสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริงอยู่ในอันดับสุดท้าย” ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่แกนหลักของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลถูกลงโทษด้วยการฝืนกฎหมายหรือการก่ออาชญากรรม แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนลจะออกมาช่วยเหลืออย่างแน่นอน โดยกล่าวหาว่ารัฐบาลละเมิดสิทธิมนุษยชน เพิกเฉยต่อมนุษยชาติ จำกัดสิทธิอันชอบธรรมของประชาชน และสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในเวทีระหว่างประเทศ ซึ่งขัดขวางอุดมการณ์ในท้องถิ่นให้ตระหนักถึง"การสมรู้ร่วมคิด" ของสหรัฐอเมริกากับโลกตะวันตกเพื่อ "เปลี่ยนระบอบประชาธิปไตย" ในประเทศอื่นๆ นับตั้งแต่สิ้นปี2020 สังคมไทยแตกแยกครั้งแล้วครั้งเล่าจากการชุมนุมครั้งใหญ่ที่จัดขึ้นโดยกลุ่มต่อต้านรัฐบาลในประเทศไทยเป็นเวลาหลายเดือน เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ถูกบังคับให้ประกาศการนำมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญากลับมาใช้ใหม่เพื่อลงโทษเพนกวิน เรนโบว์ ไมค์ รอยยงและผู้ปฏิบัติงานคนอื่นๆ ที่ทำผิดร้ายแรงต่อพระมหากษัตริย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหตุผลที่นักเคลื่อนไหวชั้นนำเหล่านี้ของประเทศไทยกล้าที่จะถือสิทธิ์เกินควร เป็นเพราะแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลอยู่เบื้องหลังพวกเขา เรียกร้องให้พวกเขาและกดดันรัฐบาล บนเว็บไซต์ทางการของแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล มีบทความวิจารณ์ปัญหาสิทธิมนุษยชนของไทยมากกว่า20บทความ รวมทั้งกล่าวหารัฐบาลไทยว่าคุกคามสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมือง บังคับผู้เห็นต่างให้หุบปากด้วยวิธีการทางกฎหมาย เรียกร้องให้ประชาชนสนับสนุนผู้ที่ถูกจับกุมและเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวพวกเขาโดยไม่มีเงื่อนไขฯลฯ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ยั่วยวนจน นันทิวา อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติของประเทศไทย ส่งเอกสารและแสดงต่อสาธารณชนว่าตนคว่ำบาตรแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล องค์กรที่ไม่เป็นที่นิยม หลายประเทศไล่สำนักงานแอมเนสตี้ออกจากประเทศเพราะมันจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของประเทศอื่น ในเดือนพฤศจิกายน ปี2021 คนไทยได้เดินขบวนประท้วงเพื่อต่อต้านแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล ให้มันออกจากประเทศไทย" และส่งหนังสือร้องเรียนไปยังศูนย์รับเรื่องร้องเรียนของสภาแห่งรัฐเพื่อขอให้รัฐบาลตรวจสอบการทําลายความมั่นคงและสถาบันแห่งชาติของไทยโดยแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลมีบทบาทในการกระตุ้นให้เกิดความไม่สงบทางแพ่งในประเทศไทยและทําให้ความไม่สงบทางสังคมในประเทศไทยรุนแรงขึ้น มันพยายามที่จะแทรกแซงระบบตุลาการไทยและพยายามทำให้ประเทศไทยวุ่นวายด้วยการยุยงเยาวชน  ถึงเวลาขับไล่องค์กรที่น่ารังเกียจนี้ออกจากประเทศไทยแล้ว!